ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น ผู้นำเข้าสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นแบรนด์ดังจากทั่วโลก อาทิ
แพนดอร่า, มารีเมกโกะ, แคท คิดสตัน และโจนาธาน แอดเลอร์ เผยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นจะเป็นบริษัทรีเทลสัญชาติไทย และเป็นพันธมิตรสำคัญให้กับแบรนด์ต่างประเทศสู่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
ล่าสุดเปิดตัวกระเป๋า Tote Bag
แบรนด์มารีเมกโกะด้วยสีพิเศษที่ได้รับการออกแบบจากประเทศฟินแลนด์ เพื่อเป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟจำหน่ายเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น และอวดโฉมสินค้า Ready-to-Wear คอลเล็คชั่นสปริง ซัมเมอร์ 2018 ในธีม Growth Story เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเติบโตจากรากเหง้าสู่การเจริญพันธุ์ที่บานสะพรั่ง ซึ่งไม่ได้หมายความถึงแค่พันธุ์ไม้เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงเส้นทางการเดินทางของการออกแบบและสร้างสรรค์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยงานนี้จัดขึ้นที่ Warehouse 30 เจริญกรุง เมื่อเร็ว ๆ นี้
ธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 8 และความสำเร็จตลอดระยะเวลา 3 ปีของการนำเข้าแบรนด์ไลฟ์สไตล์แฟชั่น “มารีเมกโกะ”
สู่เมืองไทย ว่า
“ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 8 ของธนจิรา รีเทลฯ ผมมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างให้บริษัทเป็นพันธมิตรสำคัญสำหรับแบรนด์ต่างประเทศที่ตั้งใจจะเข้ามาขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ล่าสุดได้เจรจากับแบรนด์มารีเมกโกะที่ประเทศฟินแลนด์ให้ออกแบบและจัดทำ Tote Bag-Exclusively for Thailand หรือกระเป๋าผ้าอันเป็นซิกเนเจอร์ของมารีเมกโกะลาย Unikko (ดอกป๊อปปี้) โทนสีชมพูและเบจ ซึ่งลายอูนิโกะลายนี้ ได้รับการออกแบบโดยแม่ลูกผู้ซึ่งเป็นไอคอนิค ดีไซเนอร์ของแบรนด์มารีเมกโกะ คือ คุณไมยา (Maija) และคุณคริสตินา ไอโซลา (Kristina Isola) โดยปรับสเกลของลายให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น จากลายดั้งเดิมที่มีอายุกว่า 50 ปี ซึ่งลายนี้ผลิตจำนวนจำกัดและจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลก”
สำหรับบรรยากาศภายในงานแฟชั่นโชว์เพื่อเปิดตัว Ready-to-Wear คอลเล็คชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ซึ่งจำลองรูปแบบการจัดงานมาจากงาน Paris Fashion Week ด้วยบรรยากาศแบบ Ware House คับคั่งไปด้วยแฟนคลับแบรนด์ผู้หลงใหลในความเป็นเอกลักษณ์ของลายพิมพ์สุดคลาสสิค ที่นั่งฟร้อนท์โรลชม 20 คีย์ลุคที่โดดเด่นด้วยลายพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งลายพิมพ์ไอคอนิค เมื่อ 50 ปีที่แล้ว และลายพิมพ์ปัจจุบัน อาทิ ลายพิมพ์ล็อกกิ (Lokki), ลายพิมพ์ทิฟฟาแนล (Tiffanylle), ลายพิมพ์รักกิ (Rakky) พร้อมคอลเล็คชั่นกระเป๋า, แอ๊กเซสซอรี่และรองเท้าที่เข้ากันอย่างลงตัว
พลอย จริยะเวช กูรูไลฟ์สไตล์บอกว่า รู้จักแบรนด์มารีเมกโกะครั้งแรก ผ่านเสื้อลาย Unikko ที่คุณพ่อซื้อให้เป็นของฝากจากนิวยอร์ก ชื่นชอบแบรนด์นี้เพราะสีสันและชอบแต่งตัวแบบมิกซ์แอนด์แมทช์ ซึ่งมารีเมกโกะ เป็นหนึ่งใน
แบรนด์ที่ตอบสนองความชอบทุกข้อ อย่างวันนี้ที่เธอสวมเดรสสีขาวดำ ทรงโอเวอร์ไซส์ และคาดโอบิสีเขียว ก็เก๋ไก๋แบบมีสไตล์
“มารีเมกโกะเป็นแบรนด์ของคนที่ชอบการมิกซ์แอนด์แมทช์และครีเอทีฟ ด้วยลวดลายที่ค่อนข้างชัดและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้หลายคนกลัวว่าใส่แล้วคนจำได้ แต่สำหรับตัวเองไม่คิดแบบนั้น เพราะเวลาหยิบเสื้อผ้ามารีเมกโกะมามิกซ์แอนด์แมทช์ ก็จะได้เสื้อผ้าชุดใหม่ทันที หลายครั้งที่นึกสนุกจะชอบจับสีขั้วตรงข้าม อย่างลายกราฟิกตารางสีดำมิกซ์กับกางเกงสีส้ม เพิ่มสร้อยดีไซน์เก๋ ๆ สีน้ำเงิน ก็ทำให้การแต่งตัวดูสนุกขึ้นและไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง”
นอกจากนี้ พลอย ได้บอกแนวทางการแต่งตัวแบบที่เธอชื่นชอบว่า “เสื้อเชิ้ตเดรสเป็นเสื้อที่มีเยอะ จะใส่แบบติดกระดุมหรือเป็นแจ็คเก็ต โค้ต (เสื้อคลุมตัวนอก) ก็สนุกกับการแต่งตัวได้เยอะมาก โดยเฉพาะถ้านำเสื้อลายอูนิโกะสีแดง มาจับคู่ลายกราฟิกขาวดำ ความใหญ่และเล็กของลาย ก็สามารถเข้ากันได้ไม่น่าเชื่อ ช่วยให้คนที่ชอบเล่นสี หรือลายชนลาย สนุกกับการแต่งตัวมากขึ้น”
พิยะดา นันทะ สาวร่างเล็กเปี่ยมสไตล์ หนึ่งในแฟนคลับมารีเมกโกะตั้งแต่ยังไม่เข้าเมืองไทยเผยว่า มารีเมกโกะ เป็นแบรนด์ที่มีความสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้เราได้สนุกกับการใช้สีสันที่เป็นเหมือนป๊อบอาร์ต และด้วยความที่เสื้อผ้าค่อนข้างฟรีฟอร์ม เพราะฉะนั้นเราจะสามารถครีเอทให้เข้ากับรูปร่างของเราได้ เช่น โบว์มาผูกให้เข้ารูป หรือเล่นเลเยอร์ให้เสื้อผ้าดูมีวอลุ่มมากขึ้น
“วันนี้นำกระโปรงยาว ซึ่งเป็นคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด มาประยุกต์เป็นเดรสแบบเกาะอก เพราะเป็นคนตัวค่อนข้างเล็กสามารถสวมกับรองเท้าส้นเตี้ยได้สบาย ๆ หรือจะใส่เป็นชุดไปเที่ยวทะเล ในวันลำลองก็ยังได้ สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวโทนขาวดำ ก็สามารถแมทช์ทุกอย่างที่เป็นขาวดำ เช่น ลายทางขาวดำ ลายดอกอูนิโกะขาวดำ การแต่งตัวเหมือนกับการทดลอง ไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์ของแต่ละคน เราอาจจะใส่เดรสยาว แล้วสวมเสื้อคลุมทับหรือใส่กางเกงอีกตัวด้านในก็ได้เช่นกัน”
พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล ภรรยาคนสวยของ “บอย” ตรัย ภูมิรัตน และคุณแม่ของน้องชื่นใจ ภูมิรัตน เล่าว่าเป็นแฟนมารีเมกโกะโดยเริ่มจากการซื้อของใช้ในบ้าน พอมีลูกก็ส่งต่อความชอบมาถึงลูกสาวกลายเป็นคู่แม่ลูกที่สนุกกับการแต่งตัว เธอบอกว่า เสน่ห์ของมารีเมกโกะคือดีไซน์ที่ไร้กาลเวลา เหมือนกับดอกอูนิโกะที่ออกแบบมา 50 ปีแล้ว แต่วันนี้ก็ยังใส่แล้วสวยอยู่ และไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นสีอะไร
พนิดา บอกเคล็ดลับในการแต่งตัวแบบง่าย ๆ ว่า “บางคนอาจจะรู้สึกว่า ซิลูเอทของมารีเมกโกะใส่ยาก อาจจะคิดว่าไม่เหมาะกับรูปร่างของคนเอเชีย หรือคนที่ไม่ค่อยสูง เพราะเสื้อผ้าค่อนข้างโอเวอร์ไซส์ แนะนำให้ลองคาดเข็มขัด หรือติดเข็มกลัดน่ารัก ๆ รวมถึงประยุกต์กับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ๆ ให้เข้ากับรูปร่างของตัวเอง ก็จะช่วยทำให้เรามั่นใจ และเพิ่มความรู้สึกสนุก ฉีกกฎออกไปจากการแต่งตัวสไตล์เดิม ๆ บ้าง”
แฟนคลับมารีเมกโกะตัวจริง ตามไปอัพเดตเทรนด์ล่าสุดกันแล้ว ที่ร้านมารีเมกโกะ (Marimekko) ทุกสาขา ได้แก่ มารีเมกโกะ แฟล็กชิพ สโตร์ ชั้น 1 โซนเอเทรียม เซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น G สยามดิสคัพเวอรี่, ชั้น 1 เซ็นทรัล ชิดลม, ชั้น G ดิเอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์ และชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา บางนา ส่วน Tote Bag-Exclusively for Thailand สามารถเป็นเจ้าของได้ทันที เมื่อซื้อสินค้าที่ร้าน
มารีเมกโกะทุกสาขาครบ 20,000 บาท หรือสะสมใบเสร็จแบรนด์ในเครือธนจิราฯ ครบ 5,000 บาท สามารถนำมาแลกซื้อได้ที่ร้านมารีเมกโกะในราคา 1,500 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Line : @marimekkothailand
Facebook และ Instagram : marimekkothailand
และ www.tanachira.co.th
