“มิโด” (MIDO) จัดงาน “โอเชี่ยน สตาร์ เอ็กซ์ เรดบูล คลิฟฟ์ ไดฟ์วิ่ง”

การแข่งขันกระโดดหน้าผาสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงปารีสพร้อมเปิดตัวเรือนเวลารุ่นใหม่ล่าสุด

“โอเชี่ยนสตาร์ 600 โครโนมิเตอร์แบล็คดีแอลซีสเปเชียลเอดิชั่น” นาฬิกาดำน้ำที่หนุ่มนักกิจกรรมไม่ควรพลาด!

อีกหนึ่งความตื่นเต้นที่ “มิโด” (MIDO) ได้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งแรงบันดาลใจด้านสถาปัตยกรรม คือการร่วมมือกับ “เรดบูล” (Red Bull) จัดงาน “โอเชี่ยนสตาร์เอ็กซ์เรดบูลคลิฟฟ์ไดฟ์วิ่ง” (Ocean Star x Red Bull Cliff Diving) การแข่งขันกระโดดหน้าผาสุดยิ่งใหญ่บริเวณหน้าหอไอเฟล สถาปัตยกรรมอันงดงามของประเทศฝรั่งเศส โดยมีนักกระโดดน้ำมืออาชีพชาวเม็กซิโกอย่างโจนาธาน พาเรเดส (Jonathan Paredes) และอเลสซานโดร เดอ โรเซ (Alessandro De Rose) จากอิตาลี มาร่วมสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ชมในฐานะ Friend of Brand พร้อมเปิดตัวเรือนเวลารุ่นใหม่สุดพิเศษจากตระกูลโอเชี่ยนสตาร์ (Ocean Star) ที่ชื่อว่า “โอเชี่ยนสตาร์ 600 โครโนมิเตอร์แบล็คดีแอลซีสเปเชียลเอดิชั่น” (Ocean Star 600 Chronometer Black DLC Special Edition) ในดีไซน์สปอร์ตเรียบเท่ ที่โดดเด่นด้วยโทนสีดำน่าค้นหา พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่พร้อมตอบโจทย์หนุ่มนักกิจกรรมได้เป็นอย่างดี

มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จแชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน

สำหรับนาฬิกาดำน้ำรุ่นพิเศษ “โอเชี่ยนสตาร์ 600 โครโนมิเตอร์แบล็คดีแอลซีสเปเชียลเอดิชั่น” (Ocean Star 600 Chronometer Black DLC Special Edition) โดดเด่นด้วยตัวเรือนสีดำเคลือบด้วยดีแอลซี (DLC หรือ Diamond-Like Carbon) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการขีดขวนมากกว่าการเคลือบแบบปกติ โดยรุ่นพิเศษนี้เป็นนาฬิกาดำน้ำประสิทธิภาพสูงที่มีความแม่นยำและเที่ยงตรง จากการรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC) อีกทั้งยังผสานกลไกทรงประสิทธิภาพที่ทำให้สามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง และยังนำเทคโนโลยีซิลิคอน บาลานซ์สปริง (Silicon Balance Spring) มาช่วยในการต้านแรงแม่เหล็กและป้องกันการกระแทกซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับขอบหน้าปัดบาเซิล (Bezel) ผลิตจากเซรามิกที่มีการเคลือบสารสะท้อนแสงเกรด เอกซ์ ซูเปอร์ ลูมิโนวาสีเขียว (Grade X Super-LumiNova) เอาไว้บนตัวเลขและเข็มวัดสเกลที่ใช้ในการดำน้ำ ที่จะมีการเรืองแสงเมื่ออยู่ในที่มืดซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยตัวเลขวันที่บริเวณ 3 นาฬิกา และติดตั้งระบบระบายก๊าซฮีเลียมที่อยู่ภายในตัวเรือน (Helium Valve) ที่ออกแบบมาเพื่อการดำน้ำลึกในระดับ 600 เมตร อีกหนึ่งความพิเศษของรุ่นนี้คือตัวเรือนและสายถูกผลิตขึ้นจากสแตนเลสสตีลเคลือบสีดำซาติน พร้อมสายสำรองที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ซึ่งผลิตจากซิลิโคนดีไซน์สปอร์ตสีดำ โดยด้านหลังตัวเรือนได้สลักรูปปลาดาว สัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความทนทานด้านการใช้งานในน้ำลึกของ “มิโด” (MIDO)

นอกจากนี้ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาสำหรับหนุ่มนักกิจกรรมอีกว่า สำหรับหนุ่มๆที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือกิจกรรมที่มีความผาดโผนเอ็กซ์ตรีมอย่างการดำน้ำปีนผากระโดดหน้าผาหรือกีฬาอื่นๆควรเลือกใส่นาฬิกาที่ดีไซน์มีความสปอร์ตแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถตอบโจทย์ด้านการใช้งานได้ด้วยวัสดุต้องมีความแข็งแรงสามารถป้องกันการขีดข่วนได้ดีและมีคุณสมบัติป้องกันน้ำลึกสามารถดูเวลาในที่มืดได้และต้องมีความแม่นยำเที่ยงตรงในระหว่างการทำกิจกรรมควรเลือกนาฬิกาที่สายผลิตจากซิลิโคนที่มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำเนื้อสัมผัสนุ่มไม่บาดผิวสวมใส่สบายในขณะทำกิจกรรมแต่สำหรับวันที่ต้องการทำกิจกรรมที่ไม่ผาดโผนมากอย่างการตีกอล์ฟหรือปีนผาจำลองก็สามารถเพิ่มความโก้หรูด้วยการเปลี่ยนสายนาฬิกาเป็นแบบสแตนเลสสตีลได้

สัมผัสความงดงามของเรือนเวลา “โอเชี่ยนสตาร์ 600 โครโนมิเตอร์แบล็คดีแอลซีสเปเชียลเอดิชั่น” (Ocean Star 600 Chronometer Black DLC Special Edition) นาฬิกาดีไซน์หรูดีไซน์สปอร์ตคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (Mido) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์  www.midowatches.com

Tags from the story
,