“Gradient” ผลงานชิ้นเอกจากศิลปินที่ชื่อว่า “ธรรมชาติ” ผู้รังสรรค์ความสวยงามที่ตราตรึงใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินในปัจจุบัน ซึ่งสำหรับคำว่า “Gradient” นอกจากจะฟังดูเท่ ดูเก๋ ดูมีเอกลักษณ์แล้ว ยังให้ความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากสีหนึ่งไปอีกสีหนึ่ง หรือการผสมผสานกันอย่างลงตัวของสีหลายสี จนเกิดเป็นผลงานศิลปะที่ไล่เฉดสีได้งดงามลงตัว เช่นแสงท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น หรือแสงในยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า หรือความสวยงามอื่นๆ ที่ศิลปินนามว่าธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมาภายใต้ Collection ที่มีชื่อว่า Gradient
การไล่เฉดสีของท้องฟ้า น้ำทะแลและผืนทราย
ภาพการเปลี่ยนสีของใบไม้ที่ไล่ไปที่ละสเต็ป
การไล่เฉดสีของชั้นหิน
การไล่เฉดสีของแสงพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นก็สร้างความโรแมนติกได้ไม่น้อย
และนอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา และนับเป็นเรื่องมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ “ความรัก” แม้ว่าความรักจะเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปธรรม แต่ทุกคนสามารถสัมผัสได้จากความรู้สึกข้างใน แล้วทำไมความรักถึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นล่ะ? นั่นก็เพราะความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกข้างใน แม้จะเริ่มจากคน 2 คน ที่มีความรู้สึกต่อกัน และค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ให้รวมเป็นความรู้สึกเดียวกัน แต่เต็มไปด้วยสีสันหลากหลายสี และแม้ว่าความรักจะไม่มีรูปร่างให้เห็น แต่ทุกคนล้วนสัมผัสได้ ความรักเป็นได้ทุกสิ่ง เป็นเหมือนศิลปะที่เกิดจากการผสมผสานสีสันแต่ล่ะสีเข้าด้วยกันได้ลงตัว ทำให้ความรักของแต่ละคนมีสีสันที่ไม่เหมือนกัน และความรักยังเป็นเหมือนพลังที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย และที่สำคัญเพราะมีความรักถึงมีมนุษย์ และนอกจากมนุษย์จะเกิดขึ้นได้จากความรัก แล้วยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ เพราะนอกจากเซลล์กว่าหลายล้านเซลล์ที่ประกอบมาเป็นร่างกายของเราแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ คือความรู้สึก เพราะมนุษย์แต่ละคนมีความรู้สึกที่ต่างกัน จึงทำให้มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตทที่มีความหลายหลาย เหมือนกับที่ Animation เรื่องหนึ่งได้เล่าถึงอารมณ์ต่างๆ ในตัวเราออกมาเป็นการ์ตูนชื่อดังจากค่ายดีสนีย์
Animation ที่ว่าก็คือเรื่อง Inside Out ที่บอกเล่าเรื่องราวของอารมณ์ และความรู้สึกออกมาผ่านตัวการ์ตูน ได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ ทำให้รู้ว่าทำไมเราถึงรู้สึกดีใจ รู้สึกกลัว รู้สึกโกรธ รู้สึกเศร้า หรือรู้สึกไม่ชอบ สิ่งเหล่าล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้มนุษย์แตกต่างเพราะถ้าเราขาดความรู้สึกและอารมณ์เหล่านี้ไปเราคงไม่ต่างจากหุ่นยนต์ และยังทำให้เข้าใจได้มากขึ้นว่ามนุษย์นั้นประกอบไปด้วยความหลากหลาย มีความแตกต่าง แต่ก็สามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เกิดขึ้นเป็นลักษณะเฉพาะไม่เจาะจง และเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เหมือนกับสีที่มีความหลากหลายแต่สามารถนำมาผสมผสานรวมกันเกิดเป็นผลงานศิลปะ หรือการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามมากมาย และก็มีศิลปินอีกมากมายที่ให้ความสำคัญกับสี และความรู้สึกจนนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานมากมาย เช่นเดียวกับ Karim Rashid ศิลปินผู้สาดสีสันให้กับชีวิตของผู้คนผ่านการดีไซน์
Karim Rashid ศิลปินผู้ที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร TIME ว่าเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกา เขาได้สร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย และผลงานของเขาหลายชิ้นก็ได้รับเลือกให้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ชื่อดังหลายแห่งทั่วโลก ล่าสุด Karim Rashid ได้ร่วมเป็นหนึ่งในทีมออกแบบของแบรนด์สมาร์ทโฟนชื่อดังอย่าง OPPO ในการสาดสีสันให้กับโปรดักส์เรือธงตัวใหม่อย่าง OPPO R15 Pro ที่มาพร้อมการดีไซน์แบบ 3D Glass ให้ความรู้สึกมีมิติ น่าสัมผัส และยังมาพร้อม 2 สีสุดโดดเด่น Ruby Red ที่ให้ความรู้สึกหรูหราโดดเด่นสะดุดตา ไล่เฉดสีได้อย่างลงตัว และ Cosmic Purple มาพร้อมเสน่ห์น่าหลงไหล ลึกลับน่าค้นหาชวนมองเหมือนท้องฟ้าในยามค่ำคืน ต้องยอมรับเลยว่าการร่วมมือกันของ Karim Rashid และ OPPO ใครครั้งนี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านการดีไซน์ของสมาร์ทโฟนที่เล่นกับสีสัน โดยการนำสีมาไล่เฉดผสมผสานการได้ลงตัวอย่างสวยงาม
OPPO R15 Pro มาพร้อมกล้องหลังคู่ 20+16 ล้านพิเซล หล้องหน้า 20 ล้านพิกเซลและยังมี AI portrait mode ที่ช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พร้อม VOOC Flash charge ที่ชาร์จแค่ 5 นาทีก็สามารถคุยได้ถึง 2 ชั่วโมง และหน้าจอแบบ Super Full Screen ที่กว้างถึง 6.28 นิ้ว จุใจกับ RAM 6 GB และ ROM 128 GB ในราคา 19,990 บาท ทั้งนี้ OPPO R15 Pro จะเริ่มจำหน่ายวันแรกในวันที่ 2 มิถุนายน 2561 ที่ OPPO Brand Shop และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.oppo.com และ Facebook Fanpage