หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่ธรรมชาติ หลายๆ คนคงได้ไปกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเหนือ ใต้ ออก ตก แต่วันนี้ lookbook.th จะขอพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาในวันพักผ่อนน้อย หรือ อยากใช้เวลาในการเดินทางน้อยๆ แต่ใช้เวลาในกรเที่ยวเยอะๆ เราจึงขอพาไปที่จังหวัดกาญจนบุรี เราคิดว่า เพื่อนๆ คงได้ไปกันบ้างแล้วหล่ะ แต่ถ้าใครที่มีแพลนจะไป หรือ ยังไม่เคยไป วันนี้เรามีภาพบรรยากาศสวยๆ มาฝากกันค่ะ
กาญจนบุรี
#Day 1
การไปพักผ่อนของเราในครั้งนี้ เรามีเวลา 3 วัน 2 คืน ซึ่งในการวางแผนของพวกเรานั้นเยอะแยะเต็มไปหมด นั่นก็อยากไป นี่ก็อยากเห็น เอาเป็นว่า แพลนๆ ไว้ก่อน สถานที่ไหนใกล้ที่พัก ก็ลองแวะดูกันก่อนละกัน โดยเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 09.00 น. ไปถึงที่พักเวลาประมาณ 11. 00 น. โดยในการมากาญจนบุรีครั้งนี้ เรามาพักกันที่ Mida Resort Kanchanaburi เมื่อเรามาถึงก็ขอ check-in ทำธุระส่วนตัวกันก่อน
ร้าน @เอราวัณ
เมื่อเราเก็บของ ทำธุระกันเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องออกเดินทางไปเก็บภาพสวยๆ กันแล้ว แต่ด้วยระยะของที่พักกับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนั้น จากที่เราศึกษาเส้นทางกัน เลยตัดสินใจไปกันที่ เขื่อนศรีนครินทร์ แต่ก่อนจะไปเที่ยว ท้องเราเริ่มโหยหาของกินกันแล้ว เราจึงจอดรถแวะพักกันที่ร้านส้มตำ @เอราวัณ อยู่ที่เซเว่นสุดท้ายก่อนขึ้น เขื่อนศรีนครินทร์ ร้านจะอยู่ตรงข้ามเซเว่น เพื่อนๆ สามารถแวะพักหาอะไรลองท้องกันก่อนได้เลย
สวนเวลารำลึก
โดย สวนเวลารำลึก เป็นสวนที่อยู่ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 90 พรรษา
สวนเวลารำลึกนี้สร้างเป็นสวนประติมากรรมบอกเวลา มีสัญลักษณ์รูปนาฬิกาแดด เป็นเครื่องเตือนใจให้รำลึกถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่ก้าวล่วงเวลาทุกนาทีที่ผ่านไป สมดังพระราชหฤทัยของสมเด็จย่าที่ทรงตระหนักเป็นแน่แท้ว่า เวลาเป็นของมีค่า ซึ่งควรจะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ควรปล่อยให้ล่วงเลยไปอย่างไร้ประโยชน์ นอกจากนี้บริเวณลานโดยรอบจะมีที่นั่งพักผ่อนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนศรีนครินทร์อีกด้วย
เขื่อนศรีนครินทร์
นอกจากบริเวณสันเขื่อนจะมีวิวสวยๆ ให้เราได้ชื่นชมกันแล้ว ถ้าเดินเข้าไปเรื่อยๆ หรือ ขับรถเข้าไป ในบริเวณเขื่อนก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ไว้คอยบริการกันอีกมากมาย ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีที่สักการะพระพุทธสิริสัตตราชอีกด้วย เราก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปสักการะเพื่อขอให้เดินทางปลอดภัยและทำงานกันอย่างราบรื่น
เมื่อเราได้ภาพสวยๆ กันเรียบร้อยแล้ว จึงขับรถกลับที่พัก เพราะมันก็จะเย็นมากแล้ว ซึ่งทางเขื่อนศรีสครินทร์จะเปิดให้บริการถึง 18.00 น. เท่านั้น
แต่ระหว่างที่เรากำลังเดินกลับที่พัก เราแอบเห็นสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นธรรมชาติที่สวยไปอีกแบบ โดยบริเวณรอบๆ จะเป็นหินทั้งหมด เลยจอดรถไปเก็บภาพกันสักหน่อย แต่ถ้าใครไปก็อาจจะต้องระมัดระวังกันหน่อยนะคะ เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้
Dinner
By Mida Resort Kanchnaburi
เมื่อมาถึงที่พัก ทางรีสอร์ทก็มีอาหารเตรียมไว้ให้ เรียกได้ว่า ฟินสุดๆ กับเมนูเด็ดๆ ทั้งผัดฉ่าปลาคัง , ผัดเผ็ดปลาหมึก , pork chop pepper salt , แกงป่าปลาคัง , ปลาแรดสมุนไพร และ ปิดท้ายกันด้วยของหวานอย่าง mulberry pancake ใครที่มาพักที่นี่ ต้องสั่งกันเลยกับเมนูเด็ดเหล่านี้ โดยทางรีสอร์ทยังได้บอกกับพวกเราว่า ของขึ้นชื่อของเมืองกาญฯ นั้น คือ ปลา ไหนๆ ก็มากันแล้ว ก็อย่าลืมมาสั่งทานกันได้นะคะ อร่อยมากจริงๆ ค่ะ
นอกจากจะมีข้าว อาหาร พร้อมของหวานแล้ว ยังมีเครื่องดื่มไว้คอยบริการให้ผู้ที่มาพักอีกด้วย ใครที่ได้มาที่นี่บอกเลยว่าคุ้มค่ามากจริงๆ ค่ะ หลังจากที่เราได้กินอาหารอร่อยๆ แล้ว เรายังไม่ง่วง จึงขับรถออกไปที่ ตลาด JJ กาญจนบุรี พลาซ่า ต่อกันเลย แต่ขอบอกก่อนว่า อยู่ไกลจากที่พักพอสมควร หากใครที่จะไปก็ระมัดระวังกันด้วย เพราะทางค่อยข้างมืดมากเลยค่ะ
ตลาด JJ กาญจนบุรี พลาซ่า
ตลาด JJ กาญจนบุรี พลาซ่า จะเปิดช่วงเวลาเย็นๆ เป็นต้นไป ส่วนของที่ขายนั้นก็จะเหมือนๆ ตลาดทั่วไป ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า อาหาร แต่บังเอิญว่า การไป ตลาด JJ กาญจนบุรี พลาซ่า ครั้งนี้ เราจะเจอร้านเด็ดอีกร้านแล้วหละค่ะ กับ ร้านโก๊นพ เจี๊ยะติมปั่น เป็นร้านที่ขายไอติ่มปั่น กับ ขนมปัง ซึ่งรสชาติอร่อยมากค่ะ แถมมีให้เลือกมากมาย ใครที่ได้มาเดินตลาดนี้ ก็อย่าลืม แวะมาซื้อ ติดไม้ติดมือ มาลองชิมกันได้
หลังจากที่เราเดินดูของ ได้กินของอร่อยๆ กันไปสักพักก็เริ่มง่วง กันแล้ว เราขอตัวกลับที่พักก่อน เพราะพรุ่งนี้ยังมีแพลนไเที่ยวอีกเยอะ จะไปที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
#Day 2
เพื่อนๆ คงหิว เฮ้ย ได้เห็นภาพบรรยากาศของอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทกันแล้วใช่มั้ยหล่ะ ก่อนที่จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันต่อในวันที่ 2 เราขอพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่น ชมบรรยากาศในรีสอร์ทกันก่อนดีกว่า เผื่อใครสนใจจะได้มาพักกัน ขอบอกว่าบรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ
Mida Resort Kanchanaburi
หลังจากที่เราเดินชมบริเวณรีสอร์ทกันไปพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องออกเดินทางไปเที่ยว ไปหาสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ กันดีกว่า
ร้านดาดาโรตีโอ่ง
สะพานข้ามแม่น้ำแคว
โดยสะพานเหล็กแห่งนี้คือแลนด์มาร์กสำคัญที่สำคัญที่สุดและเป็นเสมือนดังสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียว และยังเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ หลายคนคงคุ้นชื่อนี้กันดีอยู่แล้ว
หลังจากที่เราได้เห็นรถไฟ และก็ได้ภาพสวยๆ มาฝากเพื่อนๆ แล้ว ก็ขอกลับไปที่พักกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้ เราต้องออกเดินทางแต่เช้า ก่อนจะกลับกรุงเทพฯ เรายังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง เดี๋ยวเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่ออีกนิดนึง จะเป็นที่ไหน ตามมาดูกัน
#Day 3
ก่อนเดินทางกลับ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันต่อกับสถานที่ธรรมชาติ อย่าง น้ําตกเอราวัณ แต่ก่อนจะไป เราขอทานอาหารเช้า เติมพลังกันก่อน เพราะ น้ําตกเอราวัณ จากที่เราได้ศึกษากันมา เหมือนจะต้องใช้พลังงานในการเดินพอสมควร
หลังจากที่เรา check out จากทาง Mida Resort Kanchanaburi เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่เราขับรถออกมาจากรีสอร์ท ไม่เท่าไหร่ ก็ดันไปเห็น โลเคชั่นสวยๆ เราเลยไม่รอช้า รีบจอดรถละก็ได้ภาพสวยๆ มาฝากเพื่อนๆ กันอีกเช่นเคย
น้ําตกเอราวัณ
ซึ่งน้ำตกเอราวัณ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี อีกที่นึง โดยแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ น้ำตกมีความสวยงามอยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติ เดินไปยังน้ำตกไม่ไกล ไม่ลำบาก น้ำใส และมีแอ่งน้ำเหมาะกับการเล่นน้ำท่ามกลางแมกไม้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แน่นอนไหนๆ เราก็มาทั้งที ก็ขอลุยเดินขึ้นไปเก็บภาพสวยๆ กันหน่อยดีกว่า แต่การเข้าอุทยานนั้นจะมีค่าบริการ เป็นค่าเข้าของเด็กอยู่ที่ 50 บาท และ ผู้ใหญ่ ราคา 100 บาท ค่ะ
น้ำตกจะมีทั้งหมด 7 ชั้น ใครที่ไม่สามารถเดินขึ้นไปถึงชั้นที่ 7 ได้ ทางอุทยานก็จะมีรถกอล์ฟคอยบริการอยู่ โดยค่าตั๋วจะอยู่ที่ คนละ 30 บาทค่ะ แต่เราจะไม่ขึ้นเรา ลองเดินไปเรื่อยๆ ก่อน งั้นเราลุยกันเลยดีกว่า
น้ำตกใสมากค่ะ และยังมีฝูงปลาน่ารักๆ คอยบริการ ดูดเท้าเราอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการให้เช่าห่วงยาง และเสือชูชีพ สำหรับคนที่อยากเล่นน้ำตกกันอีกด้วยนะคะ
ถ้าเดินขึ้นมาเรื่อยๆ ก็จะมีจุดชมวิว ที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพัก และ ชมวิวธรรมชาติได้แบบใกล้ชิดอีกด้วยค่ะ
ซึ่งบริเวณน้ำตกแต่ละชั้น จะไม่ได้ห่างกันมากนัก แต่อาจจะชันนิดหน่อย ใครไหวแค่ไหน ก็เอาแค่นั้นนะคะ ตอนนี้เราก็เดินขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ 6 ซึ่งเราไม่รอช้า รีบลงน้ำตกเลย เพราะเหนื่อยพอสมควร แต่เมื่อได้ลงน้ำตกเย็นๆ จะบอกว่าสดชื่นมาก หายเหนื่อยเลยค่ะ
พวกเราเดินขึ้นกันถึงแค่ชั้น 6 ใครที่เดินขึ้นไปจนถึงชั้น 7 ก็อย่าลืมเก็บภาพมาฝากกันด้วยนะคะ หลังจากที่พวกเราได้เล่นน้ำตกกันสมใจแล้ว ก็พร้อมที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่ขากลับ เราเดินได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น จากนั้นก็ ……. รถกอล์ฟค่ะ
ระหว่างที่เราขับรถกลับกรุงเทพฯ กัน ก็บังเอิญเจอร้านของฝากร้านใหญ่ ที่รวบรวมของฝาก ทั้งของดี ของเด็ด จากกาญจนบุรี ไว้ไปฝากเพื่อนๆ พี่ๆ กัน ใครที่อยากซื้อของฝากจากกาญจนบุรี จะบอกว่าร้านขายของฝาก มีอยู่เต็มไปหมด บริเวณถนนเส้นหลักเลยค่ะ
ครั้งนี้เราได้พาเพื่อนๆ มาชมสถานที่สวยๆ จากกาญจนบุรีกันไปบ้างแล้ว ครั้งหน้าเราจะไปที่ไหนกันอีก อย่าลืมมาติดตามกันด้วยนะคะ หรือถ้าใครอยากให้เราไปที่ไหน ก็สามารถบอกกันมาได้เลย แล้วเราจะเก็บภาพสวยๆ มาฝากเพื่อนๆกัน และสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Mida Resort Kanchanaburi ที่คอยสนับสนุนทั้งที่พักและอาหารอร่อยๆ เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ อยากจะได้ที่พักสวยๆ บรรยากาศดีๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดหรือจองที่พักเพิ่มเติมได้ที่
Facebook page : Mida Resort Kanchanaburi
โทร : 085-1522837 หรือ 034-527-200
Line : @midahotels (ใส่ @ ด้วยนะคะ )
Writer : Plowhy
Photographer : Chayang Chayangkul