ไนกี้และออฟ-ไวท์ สร้างสรรค์โปรเจคใหม่ “เดอะเท็น” ปัดฝุ่นรองเท้าไนกี้ 10 รุ่นในตำนาน

ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกร่วมมือกับนักออกแบบเวอร์จิล อา-เบลาะ (Virgil Abloh) นำเสนอโครงการออกแบบรองเท้าใหม่ ในชื่อ “เดอะเท็น – The Ten” เพื่อแปลงโฉมรองเท้าทั้ง 10 รุ่นของไนกี้ที่มีชื่อเสียงขึ้นใหม่

โดยรองเท้าทั้ง 10 รุ่นนี้ ที่ถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในโครงการเดอะเท็นนี้ เป็นรองเท้าที่ออกแบบขึ้นจากแนวคิดหลัก 2 แบบ อันได้แก่แนวคิด“REVEALING” รองเท้าที่ถูกออกแบบให้ดูเรียบง่ายและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยมือให้ดูมีรูปลักษณ์ที่ดูเปิดเผย ซึ่งประกอบไปด้วยรองเท้าทั้ง 5 รุ่นดังนี้

ไนกี้แอร์จอร์แดน (Air Jordan I)
ไนกี้แอร์แมกซ์ 90 (Nike Air Max 90)
ไนกี้แอร์เพรสโต้ (Nike Air Presto)
ไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ (Nike Air VaporMax)
ไนกี้เบลเซอร์มิด (Nike Blazer Mid)

และอีกหนึ่งแนวคิดคือ “GHOSTING” เป็นการนำเสนอหน้ารองเท้าในรูปลักษณ์แบบโปร่งแสงเสมือนว่าผู้เป็นเจ้าของได้เห็นทุกรายละเอียดของรองเท้า รองเท้ารุ่นนี้ยังมีลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกันจากการใช้วัสดุที่คล้ายคลึงกันเพื่อผลิตรองเท้าทุกรุ่นในกลุ่มนี้ ผ่านรองเท้าทั้ง 5 รุ่นนี้

คอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ (Converse Chuck Taylor)
ไนกี้ซูมฟลายเอสพี (Nike Zoom Fly SP)
ไนกี้แอร์ฟอร์ซ 1 โลว์ (Nike Air Force 1 Low)
ไนกี้รีแอกไฮเปอร์ดังก์ 2017 (Nike React Hyperdunk 2017)
ไนกี้แอร์แมกซ์ 97 (Nike Air Max 97)

ที่ผ่านมา เวอร์จิล อา-เบลาะและไนกี้นั้น ได้ร่วมงานมายาวนานก่อนหน้าที่นักออกแบบชื่อก้องท่านนี้จะมีโอกาสมาเยือนสำนักงานใหญ่ของไนกี้เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2016 ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการสร้างสรรค์ใหม่นี้ อา-เบลาะ ซึ่งปัจจุบันเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ดีเจ ดีไซเนอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ออฟ-ไวท์ (OFF-WHITE) เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการผสมผสานกระบวนการสร้างสรรค์หลากรูปแบบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างนิยามใหม่ของแฟชั่นและการออกแบบ อีกทั้งยังมีการผสานอารมณ์ขันและลูกเล่นแบบงานแฮนด์เมดลงไปในผลงานด้วย เขาเล่าว่าเขา “เริ่มต้นเรียนรู้วิชาออกแบบ” จากรองเท้ากีฬา ปกอัลบั้มเพลงร็อคและฮิป-ฮอป และการวาดกราฟิตี้ ต่อมา เขาจึงนำประสบการณ์เหล่านั้นมาผสมผสานกับวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์

“ตอนที่ผมไปถึงสำนักงานใหญ่ของไนกี้ที่เมืองบีเวอร์ตันเป็นครั้งแรก ผมก็รู้ทันทีว่าผมอยากทำงานสักอย่างร่วมกับไนกี้ ผมไม่ได้ทำงานหนักมาตลอดเพียงเพื่อมาพูดคุยกับทีมงานของไนกี้อย่างเดียว” อา-เบลาะเล่า ในการมาเยือนสำนักงานใหญ่ของไนกี้ครั้งนั้น เขาแสดงฝีมือด้วยการสร้างสรรค์รองเท้าแอร์ฟอร์ซ 1 โลว์สีดำทริปเปิ้ลแบล็กใหม่โดยใช้เพียงมีดสำหรับงานศิลปะของเอกซ์-แอกโต้ (X-ACTO) และปากกาสี ซึ่งต่อมาพนักงานของเขาได้ใส่รองเท้ารุ่นพิเศษนี้ในงานนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องเรือนของออฟ-ไวท์ในงานดีไซน์ไมอามี่ซึ่งจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน

งานออกแบบของคุณอา-เบลาะก่อให้เกิดผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ กล่าวคือ คุณแมตต์ คิลกอร์ (Matt Kilgore) นักอออกแบบของไนกี้ลงมือผลิตรองเท้าแอร์ฟอร์ซ 1 รุ่นพิเศษจำนวน 12 คู่ที่สตูดิโอออกแบบบลูริบบอนของไนกี้ด้วยตนเองโดยมีคุณอา-เบลาะร่วมให้ข้อคิดเห็น รายละเอียดที่น่าสนใจจากแนวคิดของคุณอา-เบลาะคือการพลิกกลับให้โฟมด้านในลิ้นรองเท้าออกมาอยู่ด้านนอก การเดินด้ายปักตราสัญลักษณ์ของไนกี้สีเงินให้เห็นฝีเข็มได้ชัด และการสลักข้อความที่สื่อถึงเมืองบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน เมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดของรองเท้ารุ่นแอร์ฟอร์ซ 1

ในที่สุด ไนกี้ตระหนักถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในการปรับเปลี่ยนรองเท้ารุ่นดังของตนด้วยกระบวนการออกแบบใหม่ รวมถึงความตั้งใจของอา-เบลาะที่ต้องการทำความฝันของเขาให้เป็นจริง และนั่นก่อให้เกิดโครงการเดอะเท็น ซึ่งไนกี้และอา-เบลาะจะร่วมกันสร้างสรรค์รองเท้าที่โด่งดังของไนกี้จำนวน 10 รุ่นขึ้นมาใหม่

“REVEALING”

ผลงานสร้างสรรค์ในโครงการเดอะเท็นนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว โดยรองเท้าทั้ง 10 รุ่นพัฒนาเสร็จสมบูรณ์พร้อมออกวางตลาดภายในเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้น เนื่องจากอา-เบลาะเป็นนักออกแบบที่คิดและลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว เข้ากันได้ดีกับวัฒนธรรมการทำงานของไนกี้ ในระยะแรก ทีมงานทุกคนต้องออกแบบรองเท้าในกลุ่ม REVEALING

อา-เบลาะออกแบบรองเท้ารุ่นแอร์ฟอร์ซ 1 โดยใช้กระบวนเดียวกับที่เขาทำตอนมาเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของไนกี้เป็นครั้งแรก คือใช้มีดสำหรับงานศิลปะตัดลิ้นรองเท้าเพื่อเปิดเผยโฟมที่ซ่อนอยู่ (และเอาตราสัญลักษณ์ของไนกี้บนลิ้นรองเท้าออกไป) ย้ายตราสัญลักษณ์ของไนกี้ด้านข้างรองเท้าไปอีกจุดหนึ่ง (และขยายขนาดของมันด้วย) และเติมแถบสีส้มลงไปตามจุดต่างๆ ตอดตัวรองเท้าเพื่อเพิ่มสีสัน (รองเท้าแต่ละคู่จะมีแถบสีส้มในจุดที่ไม่ซ้ำกัน) การสะท้อนลักษณะที่ “เปิดเผย” ตามชื่อของกลุ่มรองเท้าที่ทีมงานเลือกใช้นั้นสะท้อนอยู่ในการตกแต่งรองเท้าด้วยข้อความในจุดต่างๆ ที่แตกต่างกัน เช่น การใช้คำว่า “AIR” ที่ด้านข้างรองเท้าแอร์เวเปอร์แมกซ์ แอร์จอร์แดน 1 และแอร์เพรสโต้ (เพื่อสื่อถึงนวัตกรรมไนกี้แอร์) และคำว่า “SHOELESS” บนเชือกผูกรองเท้า

“GHOSTING”

อา-เบลาะได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากนวัตกรรมชั้นวัสดุนุ่มสำหรับรองเท้าวิ่งไนกี้ซูมเวเปอร์ฟลาย อีลีทที่ออกแบบสำหรับกิจกรรม Breaking2 และรองเท้าบาสเกตบอลรีแอ็กไฮเปอร์ดังก์ โดยอา-เบลาะยกระดับนวัตกรรมเหล่านี้ไปอีกขั้นด้วยแนวคิดที่เขาตั้งชื่อว่า “GHOSTING” โดยใช้หน้ารองเท้าแบบโปร่งแสงเป็นจุดเด่น คุณอา-เบลาะปรารถนาให้รองเท้าทั้ง 5 รุ่นเป็นเครื่องบอกเล่าประวัติศาสตร์ 94 ปีของรองเท้าบาสเกตบอลไนกี้และคอนเวิร์ส รวมถึงรองเท้าวิ่งไนกี้โดยใช้วัสดุที่เรียบง่ายและมีลักษณะกึ่งโปร่งแสงเป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงรองเท้าทั้ง 5 รุ่นเข้าด้วยกัน รองเท้ากลุ่ม “GHOSTING” มีรองเท้าบาสเกตบอล 2 รุ่นที่ถือกำเนิดก่อนรองเท้าตระกูลไฮเปอร์ดังก์ (คอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ และไนกี้แอร์ฟอร์ซ 1 โลว์) และรองเท้าวิ่งอีก 1 รุ่นที่ถือกำเนิดก่อนรองเท้าเวเปอร์ฟลาย อีลีท (แอร์แมกซ์ 97)

เพื่อนำเสนอเรื่องราวและแลกเปลี่ยนแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์รองเท้ารุ่นพิเศษทั้ง 10 รุ่นอย่างเป็นทางการ ไนกี้จะจัดกิจกรรมพิเศษ “ไนกี้ ออฟ แคมปัส” (Nike Off Campus) ที่อาคาร 23 วอลล์สตรีท นครนิวยอร์ก (23 Wall Street, New York City) ในวันที่ 6-8 กันยายนนี้ และหลายๆ พื้นที่ย่านตะวันออกของกรุงลอนดอนในวันที่ 14-17 กันยายน

ทั้งนี้ ไนกี้จะวางจำหน่ายรองเท้ากลุ่ม REVEALING ทั้ง 5 รุ่น คือไนกี้แอร์จอร์แดน 1 ไนกี้แอร์แมกซ์ 90 ไนกี้แอร์เพรสโต้ ไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ และไนกี้เบลเซอร์ก่อนที่ร้านไนกี้แล็บสาขานครนิวยอร์ก (9-13 กันยายน) กรุงลอนดอน (18-22 กันยายน) นครมิลาน (21-25 กันยายน) และกรุงปารีส (26-30 กันยายน)

รองเท้าทั้ง 10 รุ่นจะวางจำหน่ายพร้อมกันอีกครั้งทั่วโลกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปที่ร้านไนกี้แล็บและร้านค้าที่ได้รับการคัดสรร