ถ้าคุณกล้าใช้ชีวิต อย่างที่มีชีวิต! แล้วจะรู้ว่า สิ่งที่ต้องทำ VS สิ่งที่อยากทำ มันไปด้วยกันได้

“ทำไมวันนึงไม่มีมากกว่า 24 ชั่วโมง” ใครเคยคิดแบบนี้ยกมือขึ้น! เพราะในแต่ละวันทำอะไรไม่เคยทันเลย แค่ทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำก็หมดเวลาแล้ว ชีวิตต้องเจอแต่อะไรซ้ำๆ ทำให้ทุกวันที่ตื่นมา มีแต่ความน่าเบื่อ ไม่เคยได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำเลย

แต่จะให้ใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนคำสั่งให้ทำแบบเดิม ทำอะไรซ้ำๆ ทุกวันก็คงไม่ได้ เพราะสักวันความเบื่อหน่ายก็จะตามหลอกหลอนเราจนแทบทนไม่ไหว แต่จริงๆแล้ว ลองมองอีกมุม หากเราอยากเปลี่ยนชีวิตที่แสนน่าเบื่อ ให้กลับมามีสีสัน ให้สมกับที่ได้มีชีวิต ก็แค่หัดรู้จักจัดสรรเวลาให้ดีและกล้าที่จะก้าวออกมาจาก Comfort Zone เท่านี้ แค่นี้สิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่อยากทำ ก็สามารถไปด้วยกันได้ เหมือนสถานการณ์ต่างๆ ที่เรายกขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้เห็นกันด้านล่าง

สิ่งที่คุณต้องเห็น VS สิ่งที่คุณอยากเห็น

เชื่อว่าทุกวันนี้เวลาคุณมองไปรอบๆ ไม่ว่าจะที่ออฟฟิศหรือที่ไหน ที่ที่เราต้องไปทุกวันซ้ำๆ อยู่แต่ที่เดิมๆ ทำอะไรเดิมๆ มองไปทางไหนก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ ถ้าอย่างนั้นลองออกไปเปิดหูเปิดตาสิ ลองพักจากความจำเจ ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ดูบ้าง แต่นี่ก็ไม่ใช่แค่การออกไปเที่ยวนะ แต่เราขอเรียกมันว่าเป็นการ “ชาร์จพลัง” ให้กับทั้งร่างกาย สมองและจิตใจ เพราะการได้ออกไปเห็นอะไรที่แปลกใหม่ ได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น มันก็ทำให้คุณมีต้นทุนชีวิตและประสบการณ์ที่มากขึ้น รวมถึงอาจจะได้รับแรงบันดาลใจดีๆ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้งานของคุณเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อย่างแน่นอน

สิ่งที่คุณต้องทำ VS สิ่งที่คุณอยากทำ

บางคนไม่อยากจะทิ้งงานไปทำอย่างอื่น คิดเอาแต่ว่าถ้าเราออกไปเที่ยว งานจะต้องไม่เสร็จแน่นอน ก็เลยต้องนั่งปั่นงานหลังขดหลังแข็งต่อไป คิดงานไม่ออก ก็ต้องเค้นจนคิดให้ออก แต่ถ้าคุณเอาสิ่งที่คุณต้องทำ ไปนั่งทำในที่ที่คุณอยากทำ คุณอาจจะรู้สึกว่างานของคุณเสร็จเร็วกว่าเดิมก็ได้นะ เพราะบางทีเวลาเรารู้สึกโอเคกับบรรยากาศรอบตัว ก็อาจจะมีไอเดียใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเซอร์ไพรส์ตัวเองอยู่เรื่อยๆ เป็นไงล่ะคราวนี้จะได้ทั้งงาน ได้ทั้งเที่ยว ในครั้งเดียว ถือว่าว่าคุ้มสุดๆ เลยใช่มั้ย

สิ่งที่ต้องสัมผัส VS สิ่งที่คุณอยากสัมผัส

ทำงานหนักจนล้า หมดแรง สุดท้ายก็ต้องจบลงที่เตียงนอนเดิมๆ และก็ต้องตั้งนาฬิกาปลุกแต่เช้าเหมือนเดิม ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้อยากตื่นไปเจอกับสิ่งที่ต้องเผชิญข้างหน้า พยายามหลบเลี่ยงตลอด ถ้าคุณกำลังรู้สึกแบบนี้ คงต้องลองหาเวลาออกไปเที่ยวบ้างแล้วล่ะ เปลี่ยนบรรยากาศ ออกไปสัมผัสธรรมชาติ พาตัวเองไปให้ธรรมชาติ บำบัด และดูดซับความสดชื่นจากต้นไม้ ใบหญ้า ลำธาร ก่อนที่จะป่วยทั้งกาย ป่วยทั้งใจไปมากกว่านี้ เพราะบางครั้งสิ่งที่เราต้องการ อาจไม่ใช่การนอนซุกอยู่ในผ้าห่มบนเตียงนุ่มๆ กับแอร์เย็นๆ แต่กลับเป็นการได้ออกไปใช้ชีวิตเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆไปกับคนรอบข้าง พร้อมกับบรรยากาศดีๆ ของธรรมชาติ ที่ให้ความสบายใจกับเราได้แค่นั้น

สิ่งที่คุณต้องรีบไปเจอ VS สิ่งที่คุณอยากรีบไปเจอ

เมื่อก่อนอาจจะคิดว่า การที่ต้องรีบไปตอกบัตรทำงานให้ทันเวลา เป็นสิ่งที่ไม่อยากเจอเลย แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้จริงๆ แหละ เพราะมันคือหน้าที่ จนเราอาจจะคิดว่าทุกวันนี้ตัวเองคือหุ่นยนต์รึเปล่า งั้นลองออกไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งดูสิ มันจะทำให้เราอยากตื่นเช้า เพราะอยากจะรีบไปเจอสิ่งสวยงามข้างหน้า ซึ่งถ้าคุณลองเปลี่ยนความคิดว่า การที่เรารีบตื่นเช้าไปทำงาน ตั้งใจทำงาน ก็เหมือนเรารีบไปเจอความสำเร็จที่รอเราอยู่ข้างหน้า ถึงจุดหมายที่ต้องเจอจะต่างกัน แต่มันก็สอนให้เรารู้ว่าปลายทางที่เราจะเจอนั้น มันสวยงามเหมือนกัน แล้วชีวิตการทำงานของคุณก็จะมีความสุขยิ่งขึ้น

เห็นมั้ยล่ะ…แค่ลองปรับความคิด หรือพฤติกรรมสักนิด ชีวิตก็เปลี่ยน! อย่างที่ ไลฟ์ บาย สปอนเซอร์ เครื่องดื่มซ่าแนวใหม่ ที่มาพร้อมคุณประโยชน์จากวิตามินบี 3 บี 6 และบี 12 เชื่อว่าแค่เรากล้าที่จะออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ให้สมกับที่ได้มีชีวิต ก้าวออกไปจากกรอบ Comfort Zone กันบ้าง ก็จะเปลี่ยนชีวิตที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อ ให้เป็นความสนุกแบบสุดๆกันได้นะ เพราะโลกใบนี้ ยังมีอะไรสนุกๆ น่าตื่นเต้นให้เราออกไปค้นหาอีกตั้งเยอะ!!

และถ้าใครได้ออกไปใช้ชีวิตกันแล้ว ก็อย่าลืมเก็บภาพมาแชร์กันที่ www.lifebysponsor.com ด้วยนะ เพราะนอกจากจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความสนุก ความทรงจำสวยๆ กันแล้ว ยังได้ลุ้นทริปสุด Exclusive ที่คุณและเพื่อนซี้ของคุณ จะได้ไปปาร์ตี้บนเรือสุดมันส์ และได้มีทแอนด์กรี๊ดกับ“ฌอห์ณ จินดาโชติ” อีกด้วย แต่ต้องรีบกันหน่อยนะ เพราะกิจกรรมจะหมดเขตวันที่ 31 ส.ค. นี้แล้ว !!!

Tags from the story
,