“เกาะช้าง” ดินแดนแห่งธรรมชาติ ทะเล น้ำตก ภูเขา ดีต่อใจสุดๆ

กลับมาเจอกันอีกแล้ว ปีใหม่นี้ ใครมีแพลนไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างน้า .. หลายคนอาจจะเดินทางออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ภูเขา ธรรมชาติ แน่ๆ เลย เพราะช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็น ถ้าขึ้นเขาคงจะมีหมอกสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันใช่มั้ย แต่ถ้าใครไปเที่ยวทางเหนือเบื่อแล้วอยากลองเปลี่ยนสถานที่ใหม่ดูบ้าง แต่ไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้เราจะขอพาเพื่อนๆ ไปเล่นน้ำทะเลกันดีกว่า แต่ไม่ได้มีเพียงแค่ทะเลนะ ธรรมชาติสวยๆ ก็มี จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลย ต้องที่ "เกาะช้าง" จังหวัดตราดนี่เอง แต่เราจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาดูพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

ก่อนที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว เรามาทำความรู้จักกับเกาะช้างกันก่อนดีกว่า จริงๆ เกาะช้างมีชื่อเต็มว่า อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง แต่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า เกาะช้าง อาจะเป็นเพราะจำง่าย ซึ่งเกาะช้างตั้งอยู่ในเขตแหลมงอบ จังหวัดตราด และเป็นจังหวัดชายแดนภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเกาะช้างนับว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ในทะเลอ่าวไทย และเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศรองลงมาจากเกาะภูเก็ตเลยนะ รู้ขนาดนี้แล้วจะรออะไร ตามไปดูสถานที่ท่องเที่ยวกันเลยดีกว่า

#Day 1

ในการเดินทางครั้งนี้เราไปกัน 3 คน วันแรกเราเดินทางโดยรถตู้ที่เอกมัย ซื้อตั๋วแบบไปกลับ ตกคนละ 600 บาท (สามารถกลับวันไหนก็ได้) เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 08.00 น. และเราเดินไปถึงท่ารถเพื่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ เวลาประมาณ 12.00 น. ส่วนตั๋วเรือที่เราซื้อมา ตกคนละ 150 บาท (รวมขาไป – กลับ) โดยจะมีรถรับส่งสีส้ม คอยบริการอยู่ตลอดเวลา แลที่เราสังเกตเห็น ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวจะเป็นช่างต่างชาติทั้งนั้นเลย

เมื่อเราเดินทางมาถึงท่าเรือเฟอรรี่ ก็ยืนรออยู่สักพัก โดยบริเวณนั้นจะมีจุดบริการขายตั๋วเรือ ตั๋วรถขากลับเยอะแยะมากมาย แถมมีร้านอาหาร ไว้คอยบริการกันอีกด้วย ส่วนใครที่นำรถส่วนตัวมา จะต้องซื้อตั๋วรถเพิ่มอีก และสามารถนำรถขึ้นเรือไปด้วยได้เลย

ซึ่งในการเดินทางจากท่าเรือเฟอรรี่ไปยังเกาะช้าง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที แต่ขอบอกว่าไม่นานเลย เพราะระหว่างที่เรานั่งเรือ เราจะได้เห็นธรรมชาติแบบสวยสุดๆ จนลืมเวลาไปเลย

The Dewa Koh Chang

เมื่อเดินทางมาถึงเกาะช้าง เราก็นั่งรถ taxi (รถสองแถว) ไปยังที่พัก และในการเดินทางของเราครั้งนี้เราเลือกพักที่ The Dewa Koh Chang อยู่บริเวณบนหาดคลองพร้าว ซึ่งห่างจากท่าเรือเฟอรี่ข้ามฟากเพียง 14 กม.

ถึงที่พักปุ๊ปเราก็รีบเก็บของ เพื่อไปดูวิวทะเลตอนเย็นๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเลย แต่วันนี้อากาศดูไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เพราะตอนที่เราออกจากกทมฯ ฝนก็ตกนิดๆ มาถึงเกาะช้าง ฟ้าครึ้ม ลมแรง แต่พวกเราก็ไม่สนใจ ยังได้ภาพสวยๆ มาฝากกันอีกเพียบ

หลังจากที่พวกเราไปชมวิวทะเลสวยๆ ได้เล่นน้ำทะเลแล้ว เห็นว่าไหนๆ ตัวก็เปียกละ เลยขอมาเล่นน้ำที่สระของทางเดอะ เดวา ต่อเลยดีกว่า แต่เราชอบสระว่ายน้ำของเดอะ เดวามาก เพราะจะมีบาร์เล็กๆ ใครที่ว่ายน้ำอยู่สามารถสั่งเครื่องดื่มทานได้เลย เก๋มากค่ะ

เล่นน้ำจนตัวเปียกไปหมดแล้ว เราก็รีบไปอาบน้ำ แต่งตัว เพื่อเวลานี้เลย อาหารค่ำของพวกเรา ซึ่งโซนรับประทานอาหารที่ทางเดอะ เดวาได้จัดไว้ให้ สำหรับผู้ที่มาพักที่นี่ จะอยู่ทางด้านหลัง ติดทะเล ขอบอกว่าอากาศดีมาก ลมแรง อาหารอร่อย แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีดนตรีสดเพราะๆ ไว้ให้เราฟังกันอีกด้วย ใครที่มาเป็นคู่คงสวีทน่าดู แต่เสียดายที่พวกเรามาเป็นคี่ 55555555555

เพื่อนๆ คงได้เห็นกันไปบ้างแล้ว กับการเดินทางวันแรกของพวกเรา หลังจากที่เรากินอิ่ม ก็เริ่มจะง่วงละ เพราะวันนี้ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนานพอสมควร แต่วันที่ 2 ยังมีสถานที่สวยๆ มาฝากอีกเพียบ  รอติดตามกันได้เลย

#Day 2

ในส่วนของวันที่ 2 นั้น เราตื่นมาก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อมากินอาหารเช้าที่ทางเดอะ เดวา จัดไว้ให้ ซึ่งอาหารเช้าจะตั้งให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป หลังจากที่เรากินอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมห้องพักของเดอะ เดวา กันหน่อยดีกว่า เผื่อใครสนใจมาเที่ยวเกาะช้าง จะได้แวะมาพักผ่อนกันได้

โดยห้องพักแรกที่เรานำมาฝากกัน เป็นห้องพักแบบวิลล่า ใครที่ต้องการมาสวีทกับแฟนต้องการห้องพักแบบส่วนตัว ห้องนี้ก็ดูจะเหมาะสุดๆ เป็นห้องวิลล่าปูนเปลือยขัดมันทรงกลม โอบด้วยหลังคาหญ้าคาทำให้ดูอบอุ่นและน่าพักอาศัย 

นอกจากนี้ บริเวณหน้าหาดของรีสอร์ทเป็นที่ตั้งของ แกรนด์วิลล่า ที่ชั้นล่างเป็นห้องโถงนั่งเล่นเหมาะสำหรับนั่งชมทะเลอย่างเป็นส่วนตัวพร้อมจากุซซี่ส่วนตัวด้านหน้าวิลล่า ชั้นบนเป็นห้องนอนในแบบ Loft Style สำหรับนอนมองทะเลจากมุมสูง เหมาะสำหรับคนที่มากับแกงค์เพื่อนเยอะๆ หรือมากับครอบครัว ต้องการความเป็นสัดส่วน ห้องนี้เหมาะสุดๆ เพราะกว้างมาก

นอกจากเดอะ เดวาจะมีห้องพักสวยๆ ไว้ให้เราได้พักผ่อน ยังมีเดอะ สปา ที่ที่จะคลายความอ่อนล้า และคืนชีวิตชีวาให้กับทุกสัมผัส ถือเป็นหนึ่งทางเลือกในวันสบายๆ และกิจกรรมพักผ่อนอีกมากมาย อย่าง พายเรือคะยัก ล่องเรือชมหิ่งห้อย นั่งช้าง เดินป่า ดำน้ำชมปะการัง ที่ทางเดอะ เดวาจัดไว้ให้ และเราก็ไม่ขอพลาด ซึ่งกิจกรรมที่เราจะทำต่อจากนี้คือ พายเรือคายัค ถึงแม้เราจะพายเรือไม่เป็นแต่ก็ขอลองดูสักนิด

พายเรือเสร็จเรียบร้อย เราก็รีบไปกินอาหารกลางวัน เพื่อไปสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่อไป และสถานที่ที่เราจะไปต่อจากนี้นั่นก็คือ น้ำตกคลองพลู ถ้าใครที่มาพักที่นี่ ทางเดอะ เดวา จะมีรถตู้คอยบริการไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าไปน้ำตกรถตู้จะพาไปช่วงเวลา 13.00 น. และพาไปหาดทรายขาว ช่วงเวลา 21.00 น. แถมยังไปรับกลับอีกด้วย น่ารักมากๆ เลยค่ะ ใจดีขนาดนี้ เราต้องไม่พลาด งั้นขอพาเพื่อนๆ ไปชมน้ำตกคลองพลูต่อเลยดีกว่า

น้ำตกคลองพลู

น้ำตกคลองพลู อยู่ห่างจากอ่าวคลองพร้าว 3 กิโลเมตร ก่อนจะเข้าไปเดินชมธรรมชาติสวยๆ ได้ ต้องเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท จากนั้นต้องเดินป่าอีกประมาณ 20 นาที ก็จะได้เห็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 3 ชั้น

โดยแต่ละจุดจะมีป้าย คอยบอกอยู่ข้างทางระหว่างที่เราเดินไปเรื่อยๆ จะเห็นธรรมชาติสวยๆ อยู่มากมาย ทั้งปลา เต่า ขอบอกว่าน้ำตกเป็นน้ำที่ใสและเย็นมาก ถ้าได้ลองไปเล่นดู สดชื่นแน่นอน แถมข้างบนยังมีน้ำตกสวยๆ ให้เราได้โดดเล่นน้ำกันอีกด้วย ใครที่มาเล่นต้องระวังๆ กันหน่อยนะคะ ถ้าใครยังนึกไม่ออกเราเก็บภาพสวยๆ มาฝากด้วยจ้า

 

 

หาดทรายขาว

ได้เล่นน้ำตก ถ่ายรูปสวยๆ ได้สักพัก เราก็เดินทางกลับไปยังที่จอดรถ เพื่อรอรถตู้ของเดอะ เดวามารับ หลังจากนั้น เราก็ไปกันต่อที่หาดทรายขาว ซึ่งหาดทรายขาว เป็นหนึ่งในพื้นที่ของ เกาะช้าง ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาที่นี่เยอะมาก กับบรรยากาศดีๆ ทะเลสวยๆ แถมยังมีร้านอาหารและที่พักอีกมากมาย ให้ได้เลือกกัน แถมตอนกลางคืนยังมีสถานบันเทิงให้ตื่นตา ตื่นใจกันอีกด้วย ใครที่มาช่วงตอนกลางคืนก็อาจจะต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ

วันนี้เราใช้เวลาได้คุ้มค่ามากๆ อาจจะไม่ได้เที่ยวครบทุกที่ แต่ก็ถือว่าอิ่มใจสุดๆ ได้เห็นทั้งภูเขา น้ำตก ทะเลสวยๆ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว แต่จะชื่นใจมากกว่ากับอาหารเย็นวันนี้ ที่ทางเดอะ เดวาได้จัดไว้ให้ กับบุฟเฟ่ห์อาหารทะเล เพื่อนๆ เตรียมทิชชูไว้รอเลย เพราะเรามีภาพมาฝากกันอีกเพียบ กลับไปกทมฯ คราวนี้ พวกเราต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ และอาหารเย็นในคืนนี้ เป็นบุฟเฟ่ห์ทะเล มีอาหารให้เราได้เลือกทานมากมาย แถมยังมีเชฟคอยบริการปิ้งย่างให้เราอยู่ตลอดเวลา จะเรียกว่าฟิน ก็ฟินนะ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะ

เมื่อเรากินอิ่ม แบบอิ่มมาก ก็ขอตัวไปอาบน้ำ เก็บของ เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับกทมฯ ไปลุยงานกันต่อแล้ว ความรู้สึกตอนนี้คือไม่อยากกลับ อยากอยู่ต่ออีกสัก 2 – 3 วัน แต่ไม่เป็นไร เราจะมาอีกแน่ๆ เพราะประทับใจมาก เพื่อนๆ คนไหนที่อยากจะมาแบบนี้ หาวันหยุดสัก 2 – 3 วัน แล้วมาพักผ่อนแบบเราสิ มันคุ้มค่ามากนะ

#Day 3

เหมือนเวลามันเดินเร็วมาก แปปเดียวเราต้องเดินทางกลับกทมฯ กันละ แต่ก่อนกลับ ขอกินอาหารเช้ากันก่อน เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน

ในส่วนของห้องอาหารเดอะ เรสเตอรองค์ นั้น มีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ และอาหารทะเลสดทุกวัน ล้วนคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีและเปี่ยมด้วยประโยชน์เพื่อสุขภาพ หรือจะเลือกมุมโรแมนติกริมชายหาดที่ เดอะ บีช ร้านอาหารและบีชบาร์ ที่เสริฟบาร์บีคิว อาหารทะเล ค็อกเทล พร้อมเสียงดนตรีเบาๆที่จะขับกล่อมคุณยามค่ำคืนให้ดื่มด่ำไปกับเสียงคลื่นและคนรู้ใจ เดอะ คาเฟ่ บริการชา กาแฟ ของว่าง พ็อกเกตบุ๊ก หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เนท และของที่ระลึก

ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คงถึงเวลาที่เราต้องกลับไปทำงานต่อ ใครที่ต้องการพักผ่อนหรืออยากไปทะเลสวยๆ บรรยากาศดีๆ เราว่า เกาะช้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยและดีมากเลย ใครที่ยังไม่เคยมา ต้องลองมาสักครั้ง รับรองว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน ถ้าใครได้มาเที่ยวที่นี่แล้ว อย่าลืมมาแชร์ภาพให้เราได้ชมกันด้วย ครั้งหน้าพวกเราจะไปที่ไหนกัน อย่าลืมมาติดตามกันน้า

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ เดอะ เดวา เกาะช้าง ที่ให้ที่พักดีๆ อาหารอร่อย กิจกรรมสนุกๆ และยังคอยบริการพวกเราอยู่ตลอด พี่พนักงานใจดีมาก สำหรับนักเดินทางคนไหน ที่จะมาเที่ยวเกาะช้างและยังหาที่พักไม่ได้ เราแนะนำว่ามาที่นี่เลย คุ้มค่าและดีต่อใจมากๆ ค่ะ

สามารถติดตามรายละเอียด และที่พักได้ที่

 – www.thedewakohchang.com 

– สำนักงานกรุงเทพโทร 02-261-6364 

Special Thanks

THE DEWA KOH CHANG

หรือติดต่อได้ที่เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย ดังนี้

Writer : Plowhy

Photographer : Chayang Chayangkul