เปิดมุมมองความรักของหนุ่มมาดกวน “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์”

ในเดือนแห่งความรักแบบนี้ หลายคนคงมีเรื่องราวความรักที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับหนุ่มมาดกวน ขวัญใจคนไทยหลายๆ คน คงไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มคนนี้ "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" ที่ไม่ว่าจะไปไหนหรือให้สัมภาษณ์สื่อไหน หลายๆ คนอาจจะจับตามองในเรื่องของความรัก เพราะนอกจากจะแสดงบทบาทในภาพยนตร์กี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็ดูดี ดูเท่ และเราเชื่อว่าสาวๆ อาจจะอยากรู้ว่าสเป็คของพี่ซันนี่เป็นยังไง เหมือนพวกเราใช่มั้ยละ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับพี่ซันนี่ และพูดถึงเรื่องหัวใจของพี่ซันนี่กัน 

SUNNY SUWANMETHANONT

Interview

มารู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของพี่ซันนี่กันก่อน

สวัสดีครับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ครับ ปกติผมเป็นคนซีเรียส นิสัยดี ใจดี แต่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าผมเป็นคนกวนๆ อาจจะเป็นเพราะคาแรคเตอร์ในหนังมากกว่า ทำให้คนคิดว่าผมเป็นคนกวนๆ ซึ่งจริงๆ แล้วผมเป็นคนใจดีนะ บางทีก็นิ่งๆ เฉยๆ ครับ

ส่วนวีรกรรมสุดแสบสมัยเรียนผมจำไม่ได้แล้วครับ แต่ตอนเด็กผมเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง เรารับผิดชอบที่เราไปโรงเรียน แต่ส่วนมากเราไม่ได้ตั้งใจไปเรียน เราตั้งใจไปเล่น แค่นั้นเองครับผม ของสะสมส่วนมากจะเป็นพวกการ์ตูน จริงๆ ไม่ได้สะสมหรอก แค่เรามีเยอะจนมันกลายเป็นของสะสมไปเอง อย่างการ์ตูนฟิกเกอร์โมเดล เสื้อยืดลายติ๊งต๊องๆ ประมาณนี้ครับ

อาชีพนักแสดงนี้คืออาชีพในฝันเลยรึเปล่า

ผมเข้าวงการบันเทิงมาได้ด้วยความบังเอิญ ฉะนั้นอาชีพนักแสดงไม่ใช่อาชีพในฝันเลยครับ ตอนเด็กผมไม่รู้จะทำไร คิดว่าอยากจะเป็นอุลตร้าแมนก่อน แต่พอโตขึ้นก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็ไม่ได้คิดอะไรเผื่อไว้ว่าจะทำอะไร คือเราเรียนเราก็รับผิดชอบในการเรียนไป เรียนจบแล้วค่อยว่ากันอีกว่าจะทำงานอะไร

เมื่อผมได้มาทำอาชีพนักแสดงแบบเต็มตัว รู้เลยว่านี่คือสิ่งที่เรารัก แล้วเราอยากทำไปเรื่อยๆ จนเราไม่มีแรงที่จะทำ แต่อย่างอื่นเราคิดตามเจตนาที่ดีของคนที่คิดจะทำ เช่น เพื่อนชวนไปหุ้น แล้วเราเห็นว่าสิ่งนี้มันดี เราก็จะทำและถ้าสมมุติว่าตอนนี้ผมไม่ได้เป็นนักแสดง ผมคิดว่าผมคงเป็นยอดมนุษย์ครับประมาณ X- Men อยู่ครับ

ทำไมถึงชอบไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดจตุจักร

ทุกสิ่งที่ผมซื้อจะเป็นสิ่งที่ผมอยากได้ และคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป เราจะไม่ค่อยซื้ออะไรที่เกินเหตุหรือแพงเกินไป ถ้ารู้สึกว่าตัวนี้มันไม่ควรแก่ราคาเท่านี้ ผมก็จะไม่ซื้อ จริงๆ ผมก็เดินห้างนะแต่อาจจะไม่ค่อยได้ไปบ่อยเท่าไหร่ครับ

ทำไมพี่ซันนี่ไม่ขับรถไปทำงาน

ผมขับรถเป็นนะ แต่ผมว่ามันไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่  ส่วนมากผมจะนั่ง BTS , นั่งแท็กซี่ ,รถตู้ เพราะส่วนมากเวลาไปออกกองทำงานก็จะมีรถตู้มารับ ผมรู้สึกว่ามันสะดวกและรวดเร็วกว่า นานๆ จะขับรถไปทำงานที เพราะอย่างที่รู้ว่ากรุงเทพฯ รถค่อยข้างติด

ทำไมตั้งชื่อแมวว่ามาโนช

จริงๆ มาโนชไม่ใช่แมวของผมนะครับ มันเป็นแมวของคนข้างบ้าน ที่ชื่อมาโนชเพราะเจ้าของที่อยู่ข้างบ้านตั้งให้ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบแมวนะแต่พอมาเจอมาโนชก็รู้สึกว่าเล่นได้ อยู่กับมันได้ ก็เลยเล่นกับมัน ตอนนี้มีตัวใหม่มาอีกตัว อยู่ๆ ก็หลงมา ผมเลยตั้งชื่อว่า “จีอึนทัก”  เพราะเพิ่งดูหนังมา

จริงหรือเปล่าที่พี่ซันนี่ไม่นับถือศาสนา

จริงครับ แต่ผมเคารพทุกศาสนา เราเคยสูญเสียศรัทธา แล้วผมรู้สึกว่าจริงๆ เราขอร้องจากศาสนามากเกินไป มนุษย์ชอบไปขอร้อง ขอพร เราเลยรู้สึกว่าแค่เราเคารพเค้า เอาข้อดี เอาคำสอนที่ศาสนาสอนมาใช้ เพราะความดียังไงก็ไม่มีวันเปลี่ยน แต่ถ้าให้ผมไปขอร้องให้สอบผ่านอะไรแบบนั้น ผมจะไม่ทำ เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ตัวเราเองต่างหากว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน

“เราไม่ได้จำกัดว่าคนที่เราเจอจะต้องเป็นคนแบบนี้หรือเป็นแบบไหน
ถ้าเราเจอแล้วเรารู้สึกว่าอยากคุยกับเค้าไปเรื่อยๆ ก็ทำตามความรู้สึกแค่นั้น 
ทำไปเถอะ สุดท้ายสิ่งที่เราทำก็จะเป็นสิ่งที่ดี
อะไรที่มันไม่ดีเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี แต่เราแกล้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้นเอง”
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้พี่ซันนี่อยู่เป็นหนุ่มโสด

ถ้าหากพูดถึงความรัก ผมมองว่าเป็นสิ่งสวยงามอยู่แล้ว แต่หากพูดถึงรักแรกพบกับตัวผมเอง ไม่มีนะเพราะผมไม่ค่อยได้รักใครนอกจากครอบครัว ส่วนสเป็กผมก็ไม่มีนะ เวาลาเราเจอใคร เราไม่ได้จำกัดว่าคนที่เราเจอจะต้องเป็นคนแบบนี้หรือเป็นแบบไหน ถ้าเราเจอแล้ว เรารู้สึกว่าอยากคุยกับเค้าไปเรื่อยๆ ก็ทำตามความรู้สึกแค่นั้น ทำไปเถอะสุดท้ายสิ่งที่เราทำก็จะเป็นสิ่งที่ดีไง อะไรที่มันไม่ดีเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี แต่เราแกล้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้นเอง

ส่วนอนาคตผมไม่เคยคิด คือ ต้องเจอกันก่อน ต้องเจอคนๆ นึงที่เรารู้สึกอยากคุยกับเค้า อยากอยู่กับเค้าไปเรื่อยๆ ถึงค่อยวางอนาคตกัน แต่ตอนนี้ยังไม่เจอ ก็เลยไม่รู้จะไปวางอนาคตกับใคร

ถ้าไม่ได้ทำงานใน 1 วันนั้นพี่ซันนี่ทำอะไรบ้าง

บอกยังไงดี คือจริงๆ งานของผมมันก็เหมือนงานอดิเรก ผมรู้สึกว่าการออกกองก็สนุกเหมือนการนอนดูทีวีอยู่บ้าน เหมือนออกไปเตะบอลหรือไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน แต่ตื่นมาอาบน้ำแปรงฟันนี่ใช่ อึก่อนสักรอบไม่งั้นออกไปข้างนอกลำบาก (หัวเราะ)

มีวิธีจัดการกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตยังไงบ้าง

ปัญหาบางปัญหา บางทีมันแก้ไม่ได้เลย มันต้องใช้เวลา เพราะเราบังคับได้แค่ตัวเอง เราไม่สามารถบังคับคนอื่นที่ทำให้เกิดปัญหาได้ มันเลยทำอะไรไม่ได้มาก คือต้องใช้เวลา ว่าเค้าจะเข้าใจกับเราหรือเปล่า

วางเป้าหมายในอนาคตอยากทำอะไรต่อ

ผมไม่เคยคิดวางแผนอะไร ต้องเจอก่อน แล้วจะรู้เองว่าอยากทำอะไร จึงค่อยคิดว่าจะทำยังไงแค่นั้น ผมจะไม่วางแผนอะไรทั้งนั้น ผมรู้สึกว่าคนเราเกิดมาใช้ชีวิตแค่นั้นเอง

สุดท้ายนี้ฝากผลงานกันหน่อยค่ะ

ผมก็ขอฝากหนังเรื่องล่าสุดอย่าง “มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ” นี่เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้  เป็นเรื่องของความรักหลายรูปแบบทั้งอกหัก สมหวัง แล้วก็การที่ความรักทำให้เราล้มลง จะทำยังไงให้เรากลับมายืนได้ แต่เล่าด้วยมุมของความอารมณ์ดีมองด้านบวกก็จะมีความสนุกสนาน เป็นภาพยนตร์ที่สนุกสนานน่ารัก แล้วก็จะทำให้รู้ว่า จริงๆ แล้วความรักที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้มีประโยชน์แค่ไหนและให้อะไรกับเราบ้างยังไงก็ฝากด้วยนะครับเข้าฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์

Writer : Plowhy

Photographer & Editor : Chayang Chayangkul , Trakan Ketkaew